top of page

Vincent  Van Gogh

Vincent Willem van Gogh (ภาษาดัตช์ออกเสียงว่า ‘ฟัน โคค’) เกิดที่หมู่บ้านเล็กๆ ในเมืองบราบันต์ ตำบลซันเดิร์ต ประเทศเนเธอร์แลนด์ในครอบครัวของบาทหลวง สมัยเด็กเขามีบุคลิกขี้อาย อ่อนไหว เงอะงะ และเก็บตัว เมื่ออายุได้ 16 ปี เขาเริ่มต้นอาชีพการงานด้วยการเป็นลูกจ้างในแกลเลอรีค้างานศิลปะของคุณลุง

 

ในช่วงปี 1881 เขาได้เข้าเรียนศิลปะกับ Anton Mauve จิตรกรเหมือนจริงชั้นครูแห่งสถาบัน Hague School ในกรุงเฮกที่ไม่เพียงสอนพื้นฐานการวาดภาพ การใช้สีน้ำและสีน้ำมัน หากแต่ยังขยายขอบเขตพื้นฐานการแสดงออกในฐานะศิลปินให้เขาด้วย

 

ชีวิตของแวน โกะห์ กลับไม่สดใสอย่างภาพเพราะหลังจากนั้นเขาประสบกับมรสุมชีวิต ทั้งจากการเสียชีวิตของพ่อและความผิดหวังในความรัก ปลายปี 1883-1885 แวน โกะห์ ใช้เวลาอยู่ในหมู่บ้านทางเหนือของเมืองนูนเอิน และมุ่งเน้นบันทึกภาพชีวิตของชาวไร่ ชาวนา และช่างทอผ้า ในช่วงนี้นี่เองที่เขาวาด The Potato Eaters (1885)

potato-eaters.jpg

เหตุการ์ณก่อนที่จะเข้าการรักษาทางจิต

แวนโก๊ะรู้สึกได้ว่าโกแก็งกำลังจะไปจากเขา ความรู้สึกกลัวที่ถูกโกแก็งทอดทิ้งทวีสูงขึ้นจนถึงจุดวิกฤติ ในคืนก่อนถึงวันคริสมาสต์ 2 วันทั้งสองทะเลาะกันหนักจนโกแก็งออกจากบ้านไปนอนโรงแรม แวนโก๊ะได้ตัดใบหูข้างซ้ายของตัวเองด้วยมีดโกน แล้วเอาใบหูเปื้อนเลือดห่อกระดาษส่งไปให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่สถานบริการซึ่งเขาและโกแก็งมาเที่ยวกันบ่อยๆ หลังเหตุการณ์โกแก็งรีบกลับปารีสและไม่เคยพบกับแวนโก๊ะอีกเลย มีเพียงการติดต่อกันทางจดหมาย ส่วนแวนโก๊ะหมดอาลัยตายอยากและต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลนานเป็นเดือนด้วยอาการประสาทหลอนและหลงผิด ต่อมาถูกชาวบ้านร้องเรียนว่าเป็นคนบ้า จนถึงกลางปี 1889 แวนโก๊ะจึงย้ายออกจากเมืองอาร์ลเพื่อเข้ารับการบำบัดที่โรงพยาบาลโรคจิต

แวนโก๊ะรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล Saint-Paul ในเมือง Saint-Rémy ไม่ไกลจากเมืองอาร์ลนาน 1 ปีเต็ม สถานพยาบาลและสวนของที่นี่จึงกลายเป็นหัวข้อสำคัญในภาพเขียนที่เขายังทำอยู่อย่างต่อเนื่อง เขาได้เขียนภาพชุด Cypresses, ชุด Flowers, ชุด Wheat fields, ชุด Olive Trees และภาพเขียนชิ้นเยี่ยมอีกจำนวนมาก รวมทั้งภาพที่โด่งดังที่สุดของเขาคือภาพ The Starry Night ช่วงต้นปี 1890 แวนโก๊ะได้รับเชิญให้ส่งภาพเข้าร่วมนิทรรศการประจำปีของกลุ่มศิลปิน Les XX ที่เมืองบรัสเซลส์ และในคราวนั้นโกลด มอแน (Claude Monet) ศิลปินดังแห่งยุคได้กล่าวว่าผลงานของแวนโก๊ะดีที่สุด

Van Gogh กับการป่วย

Temporal Lobe Epilepsy โรคลมบ้าหมู

Van Gogh มีอาการชัก ซึ่งแพทย์รวมทั้ง Dr. Felix Rey และ Dr. Peyron เชื่อว่าเกิดจากโรคลมชักกลีบขมับ Van Gogh เกิดมาพร้อมกับอาการบาดเจ็บที่สมอง ซึ่งแพทย์หลายคนเชื่อว่ามีอาการรุนแรงขึ้นจากการใช้ Absinthe เป็นเวลานาน ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคลมชัก Dr. Gachet ซึ่งเป็นแพทย์อีกคนหนึ่งของ Van Gogh คิดว่าจะรักษาโรคลมบ้าหมูด้วย digitalis ยาตามใบสั่งแพทย์นี้อาจทำให้คนเห็นเป็นสีเหลืองหรือเห็นจุดสีเหลือง นี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่แวนโก๊ะชอบสีนี้

Bipolar disorder

เนื่องจากความกระตือรือร้นและการอุทิศตนอย่างสุดขีดของแวนโก๊ะในศาสนาแรกและศิลปะควบคู่ไปกับความเร็วในการผลิตงานศิลปะของเขา หลายคนเชื่อว่าความบ้าคลั่งเป็นเงื่อนไขสำคัญในชีวิตของแวนโก๊ะ อย่างไรก็ตาม ตอนเหล่านี้มักตามมาด้วยความอ่อนล้าและซึมเศร้า และการฆ่าตัวตายในท้ายที่สุด ดังนั้น การวินิจฉัยโรคไบโพลาร์หรือโรคซึมเศร้าคลั่งไคล้จึงเหมาะสมกับเรื่องราวเหล่านี้ในชีวิตของแวนโก๊ะ

Thujone poisoning ภาวะเป็นพิษจาก Thujone

เพื่อตอบโต้อาการของเขาจากโรคลมบ้าหมู ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า แวนโก๊ะจึงดื่มแอ๊บซินท์ ซึ่งเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นพิษซึ่งเป็นที่นิยมของศิลปินหลายคนในขณะนั้น Thujone เป็นพิษในแอ๊บซินท์ น่าเสียดายที่ Thujone ทำงานกับ Van Gogh ซึ่งทำให้โรคลมชักและภาวะซึมเศร้ารุนแรงขึ้น ปริมาณสูงของทูโจนอาจทำให้คนเห็นวัตถุเป็นสีเหลืองได้ แพทย์หลายคนมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันว่านี่คือสิ่งที่ทำให้เกิดความสัมพันธ์ของแวนโก๊ะกับสีเหลืองหรือไม่

Lead poisoning ภาวะเป็นพิษจากตะกั่ว

เนื่องจากแวนโก๊ะใช้สีตะกั่ว มีบางคนเชื่อว่าเขาได้รับพิษจากตะกั่วจากการแทะที่ชิปสี ดร.เพย์รอนยังตั้งข้อสังเกตอีกว่าในระหว่างการโต้กลับของเขา แวนโก๊ะพยายามวางยาพิษให้ตัวเองด้วยการกลืนสีหรือดื่มน้ำมันก๊าด อาการหนึ่งของพิษตะกั่วคือการบวมที่เรตินา ซึ่งอาจทำให้มองเห็นแสงเป็นวงกลมเหมือนรัศมีรอบๆ วัตถุ สามารถเห็นได้ในภาพวาดเช่น The Starry Night

Hypergraphia ภาวะทางสมองที่หยุดเขียนไม่ได้

Hypergraphia เป็นภาวะที่ทำให้ต้องเขียนอย่างต่อเนื่อง ความผิดปกตินี้มักเชื่อมโยงกับความบ้าคลั่งและโรคลมชัก บางคนเชื่อว่าคอลเล็กชั่นจดหมายกว่า 800 ฉบับที่แวนโก๊ะเขียนในช่วงชีวิตของเขาอาจเกิดจากสภาพนี้

 

Sunstroke โรคลมแดด 

เนื่องจากแวนโก๊ะพยายามเพื่อความสมจริงในภาพวาดของเขา เขาจึงมักจะวาดภาพกลางแจ้งโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เขาอยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ความเกลียดชังและอาการคลื่นไส้และ "ท้องไม่ดี" บางตอนของเขาที่เขาอ้างถึงในจดหมายของเขาอาจเป็นผลมาจากการถูกแดดเผา

หมอกว่า 150 คนพยายามศึกษาเกี่ยวกับตัวเขาถึงแม้ว่าเขาจะตายไปแล้วเรารู้ว่า เขาเฉืแนหูตัวเองและฆ่าตัวตายเห็นได้ชัดว่าเขากำลังดิ้นรนกับบางสิ่ง การวินิจฉัยที่เป็นได้มากที่สุดก็คือ Bipolar กับ การติดสุรา

bottom of page